ผ่านโลกมาเกินครึ่งทาง (ชายไทยอายุเฉลี่ยที่ 80 หญิงไทยที่ 85)มีเรื่องการสะสมมาเล่าให้วัยรุ่น ๆ ฟัง
- การสะสมผงชูรส
ชื่อ
ทางวิทยาศาสตร์ โมโนโซเดียมกลูตาเมท อาการของโรคของปลายนิ้วชา เรียกง่าย ๆ
ชามือ ชาเท้า คนวัยเดียวกันก็เริ่มออกอาการ บางคนเป็นหนักก็เป็นโรค
"แพ้ผงชูรส" ปากคอร้อน แก้ม หน้า ร้อนคงเริ่มสะสมกันตั้งแต่เข้าเรียน ปี 1 จาก มาม่า เพราะ ง่ายดี
แต่ปัจจุบันจะเห็นว่า วัยรุ่นสะสมผงชูรสในร่างกายตั้งแต่อายุยังน้อย ขนมขบเคี้ยว ซุปก้อนปรุงอาหาร อาหารสำเร็จรูป
(โชคดี ที่บ้านมักจะทำอาหารทานกันเอง ไม่ใช้ชูรส ร้านอาหารประจำ ๆ ก็ขอเขาไม่ใส่)
- การสะสมกาแฟ (คาแฟอืน)
คาแฟอีน เป็นตัวกระตุ้นให้ตื่น
หัวใจถูกกระตุ้นให้สูบฉีดเลือดเร่งกว่าปกติ (คงจำได้กาแฟแก้วแรก
หัวใจเต้นตุบตับ) เส้นเลือดถูกขยายตัว ทำให้เปราะบาง แตกง่ายคนวัยครู ก็ทยอยเป็นโรคความดันโลหิตสูง (ก็กระตุ้นกันมาทุกๆ วัน) เส้นเลือดฝอยแตก กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ
ก็คงเริ่มดื่มตอนเรียน ปี 1 อีก แต่เอาเป็นจริงเป็นจัง ตอนทำงาน ตอนเป็นหนุ่ม เป็นสาว ออฟฟิศ เท่ห์ดี
(โชคดีครูดื่มกาแฟไม่เป็น ดื่มแล้วใจเต้น นอนไม่หลับ)
- การสะสมของไขมัน
หรือ
โรคอ้วน สูตรคำนวณง่าย ๆ สำหรับชายเอา 105 ไปลบออกความสูง
เป็นน้ำหนักที่เหมาะสม ก็ได้มาจาก ข้าวขาว
(ไม่น่าเชื่อว่าทานข้าวขาวแล้วอ้วน) จาก หมูติดมัน จากขนมขบเคี้ยว
โรคที่ตามมา ไขมันเลวในเลือดสูง กรดยูริคสูง (เป็นโรคเจ็บกระดูก)
ครอเลสโตรอลสูง ความดันสูงโรคนี้มีอีกชื่อว่า โรคกินดีอยู่ดี
ตอน เริ่มเป็น ก็รีบปรับนิสัยการทาน เปลี่ยนข้าวขาว เป็นข้าวกล้อง ลด ละ เลิก เนื้อติดมัน ทานผักเยอะ ๆ ทานน้ำเยอะ ๆ ลด ละ เลิก อาหารสำเร็จรูปทุกอย่าง กว่าจะลดได้ ต้องใช้เวลาพอควรเพราะทานจนเป็นนิสัยแล้ว
- โรคจากแอลกอฮอล์
เครื่อง
ดื่มแอลกอฮอล์เป็นศัตรูตัวร้ายกับเซลสมอง ไปทำลายเซลสมอง
ที่สมองส่วนหน้าจะทำให้คิดช้า ตอบสนองช้า เพื่อนครูหลายคนที่ติดเหล้า
ตอนนี้ก็ประมาณผีดิบเดินได้ไปทำลายสมองส่วนหลังคือความจำ จำได้แย่ลง ๆ จำได้อย่างเดียวคือ ต้องดื่ม ต้องดื่ม
ส่วนตับ ไต ใส้ พุง ไม่ต้องพูดถึง ได้ยินจนเบื่อ
พวกนี้ก็เริ่มดื่มกันตอนเรียน มหาลัย เหมือนกัน และเริ่มติด ตอนทำงาน
แต่พวกเราที่เริ่ม ก็คงเริ่มกันเร็วกว่านี้ การสะสมก็จะส่งผลเร็วกว่ารุ่นของครู
- โรคจาก บุหรี่ คงไม่ต่างจากแอลกอฮอล์ แต่ผลจะรุนแรงกว่า เจ็บปวดกว่า ปอดเป็นรูพรุน หลอดลมอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ คุณภาพชีวิต แย่ลงมาก
วัยรุ่นปัจจุบัน มีค่านิยมในการดื่มที่รุนแรงมาก การสูบก็มากตาม เพราะเป็นของคู่กัน
ไม่เว้นท่านหญิง และ ท่านชาย น่ากลัวมาก
สมัย ครู ก็เริ่มกันตอนเรียนมหาลัย สะสมกันไปเรื่อย ๆ ๆ จนมากพอที่จะออกอาการ แล้วการรักษาก็ไม่ง่าย ไปจนถึง ไม่มีทางรักษา ต้องคอยบรรเทาอาการไปวันๆ เท่านั้น
ในทางกลับกัน ครูได้สะสมความรู้ต่าง ๆ มาเป็นเวลานาน เช่น ภาษาอังกฤษ ครูท่องศัพท์มาตั้งแต่ตอน ม.ปลาย เตรียมสอบ entrance เรือยมา พยายามหาสื่อภาษาอังกฤษอ่าน
เช่น ง่าย ๆ ก็อ่าน student weekly ต่อมาก็เป็น Bangkok post เป็น นิตยสารอังกฤษ วารสาร
ฟังรายการวิทยุ โทรทัศน์ ภาษาอังกฤษ
ยิ่งตอนนี้ หาสื่อเหล่านี้ง่ายมาก ๆ จน น่าอิจฉาเด็กสมัยนี้
อ่านข่าวสาร บ้านเมือง ปรัชญา ความคิด จนพอจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังได้บ้าง เวลาลูกหลานมาถาม
เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ตอนเรียน ปี 3 นับได้ว่าช้ามาก เมื่อเทียบกับท่านทั้งหลายที่มี "โอกาส" ใช้งานตั้งแต่เด็ก
จนพอจะมีความรู้สอนวิชาคอมฯ พื้นฐานได้บ้าง
และอื่น ๆ
ท่านทั้งหลาย จะสะสมอะไรดี อะไรที่จะได้ใช้่ในอนาคตอันใกล้ และ อันไกล
1.สะสมความรู้ด้านภาษาอังกฤษเพราะว่าประเทศเรากำลังจะเปิดประเทศให้ประเทศในกลุ่มASEANได้เข้ามาทำงานในประเทศได้และแน่นอนว่าภาษาอังกฤษถือว่าสำคัญมากในทุกอาชีพในอนาคตอันไม่ไกลนี้
ตอบลบ2.สะสมความรู้ด้านเทคโนโลยีเพราะว่าการที่เราเทคโนโลยีต่างๆก็จะสามารถเป็นผลประโยชน์ในด้านการทำงานเช่นกัน
3.สะสมความรู้ในสาขาวิชาที่ตนเองเรียนและหมั่นฝึกฝนเพื่ออนาคตในการทำงานของตัวเราเอง
ผงชูรส ไขมัน ที่อาจารย์ได้กล่าวมานั้นคนเราทุกคนก็คงหลีกเลี้ยงไม่ไ้ด้ในการสะสมมันแต่ก็สามารถจำกัดมันได้ช่ายไหมค่ะ
ส่วนกาแฟ แอลกอฮอล์ และบุหรี่ เราสามารถหลีกเลี้ยงได้ใช้ไหมค่ะ และหนูก็คนหนึ่งที่ไม่ยุ้งกะสิ่งเหล้านี้เลย....
หลีกได้หลีก เพิ่มได้เพิ่มนะ เอาความรู้ที่เรียนมามาใช้ในชีวิต เช่น ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ก็ตกชั่วโมงละแก้ว เรื่องพื้นฐานแบบนี้ก็ยังละเลยกัน (หมวกสวยนะ)
ลบสิ่งที่หนูอยากจะสะสมมากที่สุด คือ ความรู้ด้านภาษาอังกฤษค่ะ หนูคิดว่าสาเหตุที่ทำให้หนูเรียนภาษาอังกฤษไม่เก่ง เป็นเพราะว่าตอนเด็ก ๆ ครูที่สอนภาษาอังกฤษดุมาก ทำให้หนูกลัวและไม่กล้าที่จะถาม เลยทำให้หนูไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษมากที่สุดเลย เวลามีการบ้านหรือครูสั่งงานให้ทำ หนูก็มักจะให้เพื่อนช่วยทำโดยหนูคิดเป็นภาษาไทยแล้วให้เพื่อนคิดภาษาอังกฤษให้ทุกครั้งเลย จึงทำให้หนูไม่ได้เกิดการฝึกฝนเลย จนมาเรียนที่พายัพหนูจึงได้ลงมือทำเอง และหนูก็รู้ว่ามันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราเลย ถ้าหากเรารู้ศัพฑ์เยอะ ๆ และตั้งใจเรียนในห้องเรียน เพราะเพียงแค่เราพูดภาษาต่างประเทศได้มากเท่าไหร่เราก็จะมีโอกาสมากกว่าคนอื่นค่ะ ส่วนที่หนูคิดว่าหนูควรจะลดก็คือ ลดน้ำหนักค่ะ เพราะถ้าหากหนูอ้วนไปกว่านี้ก็อาจจะเป็นผลเสียกับสุขภาพของตนเอง ตอนนี้หนูก็พยายามอยู่นะค่ะ แต่มันก็ไม่ลด แต่มันก็ไม่เพิ่มด้วยค่ะ (สาเหตุที่มันไม่ลดอาจเป็นเพราะหนูไม่ชอบทานผักและออกกำลังกายมั้งค่ะ)
ตอบลบเริ่มท่องหรือยังละ โปรแกรมท่องศัพท์ที่ครูมีไว้ให้ download มีเยอะแยะเลย เคยเขียนบทความไปแล้วก็ทำ หากเริ่มทำกันตั้งแต่ตอนนั่น เวลาผ่านไปร่วมเดือนหรือ 30 วัน ตอนนี้ก็ได้ศัพท์เพิ่มมาแล้วไม่ตำกว่า 300 คำ อานุภาพของการสะสม
ลบเริ่มได้ที่คิดแล้ว ต่อไปก็เริ่มทำ ยิ่งทราบสาเหตุแล้ว ก็ยิ่งง่ายขึ้นนะ