วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คอมพิวเตอร์ปีหน้า

เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ หรือ มหาวินาศภัยที่เกิดกับบ้านเรา สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของไทยที่มีต่อโลก IT
บริษัท Intel ยักษ์ใหญ่(สุด)ผลิต CPU ประกาศปรับลดคาดหมายกำไรไตรมาส 4 กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เหตุน้ำท่วมไทยกระทบการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ส่งผลต่อเนื่องถึงการผลิตคอมพิวเตอร์และการใช้ชิพประกอบ โดยเครื่องพีซีจะผลิตได้ลดลงในช่วงไตรมาสแรกปี 2555 พร้อมคาดว่าการขาดแคลนฮาร์ดไดรฟ์จะดำเนินไปถึงไตรมาสแรกของปีหน้า

ข่าวดังกล่าวอาจทำให้เรารู้สึกภูมิใจในความสำคัญของประเทศ เรา ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิต Hard disk เช่น Seagate และ western digital มาตั้งโรงงานผลิตในไทย (โดยเฉพาะ Seagate ที่ผลิต hard disk รายใหญ่ที่สุด มีกำลังผลิตในไทยกว่า 1 ใน 4 ของโลก ) ผลิต Hard disk ส่งออกขายทั่วโลก จ้างแรงงานนับแสนชีวิต
ในความเป็นจริง บริษัทฯ เหล่านี้เข้ามาตั้งโรงงานในไทยเพราะได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจาก BOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ) โดยมีแรงจูงใจมากมายโดยเฉพาะการลดหย่อนภาษี
อาจกล่าวได้ว่า กำไรจากการขาย Hard disk ของบริษัทฯ เหล่านี้ ประเทศไทยได้ประโยชน์น้อยมาก หรือแทบจะไม่ได้เลย
ที่เราได้เป็นชิ้นเป็นอันก็คือค่าจ้างกับแรงงานนับแสนชีวิต ก็รู้สึกว่าดีอีกใช่ไหม
แรง งานเหล่านี้เป็นแรงงานไร้ฝีมือ ได้ค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย ทำงานประหนึ่งเป็นเครื่องจักร แม้เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ค่าแรงถูกกว่า แต่โครงสร้างพื้นฐาน เช่น น้ำ ไฟ ถนน การคมนาคม ขนส่ง ของไทยถือว่าได้เปรียบ
จึงเป็นเหตุผลหลักที่บริษัทฯ เหล่านี้เข้ามาลงทุนในไทย
กำไร คือเป้าหมายสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ
(เกี่ยวกับชื่อบทความหรือยังเนี่ย)

โจทย์ สำคัญของคอมพิวเตอร์คือ กำไรสุงสุด ด้วยเทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบันทำให้คอมพิวเตอร์ราคาถูกลงมาก เหลือเครื่องฯ ไม่ถึง สองหมื่นบาท
ด้วยราคาเช่นนี้ ส่งผลให้กำไรต่อหน่วยลดลงมาก
ดังนั้น ต้องทำให้เครืองฯ มีราคา สามหมื่นบาท สี่หมื่นบาท กำไรที่ได้จึงจะเป็นกอบเป็นกำ
คอมฯ ในปีที่จะมาถึง ที่จะขายได้ในราคาที่สร้างกำไรคงได้แก่
เครื่องแบบ All-in-One
โดยใส่ความอยากทุกอย่างเท่าที่จะใส่ได้ลงไปเช่น
* จอใหญ่ 23 นิ้ว
* ทำให้เป็นทีวีให้ได้
* จอสัมผัส
* CPU แรง ๆ
* RAM เยอะ ๆ
* Hard disk โต ๆ

* keyboard & mouse ไร้สาย

ให้ชีวิตทั้งชีวิตนั่งอยู่หน้าคอมฯ อย่างมีความสุข สนุก ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์เต็มที่


ราคาเริ่มที่ 13900 จอ 20 นิ้ว ไม่เป็น multi-touch จับลูกค้าเงินน้อย

ถ้าเป็น multi-touch ก็เป็นเริ่มที่ 30900 ไปจนถึง 53,500 บาท
ของ Acer

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบเห็นตัว case กำลังหมดไป ๆ เพราะไม่สวย ขายได้ราคาไม่ดี



สำหรับ notebook บ้าง ราคาก็ถูกเหลือเชื่อ หมื่นหน่อย ๆ ก็ซื้อได้ (แต่คงไม่ทนทาน) ก็กำไรน้อยอีก จะให้กำไรมาก ก็ต้องสร้างความอยากแบบสุด ๆ สวยสุด โดนใจสุด
ก็นี่เลย  Ultra notebook ทั้งบางและเบา แถมจอภาพไม่เล็กด้วย


บางเพียง 3 มิลฯ (ไม่อยากเทียบกับโฆษณาผ้าอนามัยเลย)
จอ 13.3 นิ้วแบบ LED
CPU สุด ๆ
RAM 4 GB สุด ๆ
หนักเพียง กิโลฯ หน่อย ๆ ราคาเหยียบ สี่หมื่น แบบนี้สิ กำไรเป็นชิ้นเป็นอันหน่อย
ที่มาแรง เพราะตอบสนองความอยาก ความสบายได้ดีสุด เท่ห์สุด ก็ต้อง
tablet

แต่จอ 10.1 นิ้วชักจะใหญ่ไป
ไหน ๆ เจ้า tablet ก็คงไม่มีไว้ใช้งานอะไรเป็นเรื่องเป็นราว
นอกจากงานหลักคือ เล่นเกมส์ โชว์รูป โชว์หนัง
ก็เอาแบบจอเล็กหน่อย จะไ้ด้พก
พาสะดวก เท่ห์สุด ๆ
ก็เป็น 7 นิ้วแล้วกัน
พยายามให้แทนที่ smart phone ให้ได้มากที่สุด





*

*

*

*

*

*

*

*

*

*

*

ใน ฐานะที่เราเป็นนักศึกษา เป็นชนชั้นแห่งผู้มีความรู้ ก็ต้องสามารถบริหารจัดการกับ เครื่องใช้ ชิ้นนี้ให้ได้ดี มีประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่า คุ้มราคา นะ จะ บอก ให้

2 ความคิดเห็น:

  1. น่าสนใจมากเลยค่ะพอดีโนตบุคเสียค่ะหน้าจอมันเป็นเส้นๆแล้วกระตุกเอาไปซ่อมเค้าบอกว่าเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 8,000 บาท ช่างเค้าบอกว่ารุ่น compaq เป็นแบบนี้ทุกรุ่นเลยซื้อมาได้แค่ปีกว่าเองค่ะ

    ตอบลบ
  2. ซ่อมร้านไหนละคะ
    เครื่องฯ ของครูก็เคยเป็นเส้นขาว ไม่กระตุก ช่างบอกค่าซ่อมประมาณหมื่น เลยไม่ซ่อม อยู๋มาวันดีคืนดี ก็หาย และยังไม่เป็นอีกเลย

    ตอบลบ